เทคนิคเลือกผ้าเช็ดน้ำยาเคลือบสี
เทคนิคเลือกผ้าเช็ดน้ำยาเคลือบสี
” ผ้า” กับ “การเช็ดน้ำยาเคลือบสี “
ในบางครั้งอาจพบได้ว่า น้ำยาเคลือบสีตัวนี้เงาดีแต่ เช็ดออกยาก ไม่เหมือนกับ รุ่นอื่นๆที่เคยใช้มาก่อน ที่เช็ดออกง่ายกว่า น้ำยานี้เช็ดยาก น้ำยายังเหลืออยู่ ต้องออกแรงเช็ดมากขึ้น ถ้าผ้าไม่สะอาด รถก็เป็นรอยได้อีก หรือ เช็ดแล้ว เป็นคราบวงๆ น้ำมัน เช็ดเท่าไหร่ก็เช็ดไม่หมด
มีอยู่ 2 เหตุผลที่ไม่ลงตัว ทำให้เป็นแบบนี้ คือ
1.ประเภทของผ้าเช็ด คือ ผ้าไมโครไฟเบอร์ และ ผ้าสำลี ผ้าฝ้าย 2. ลักษณะของผิวน้ำยาเคลือบสี คือ น้ำยาเคลือบสี เมื่อแห้งแล้ว จะเป็นแบบ ผิวแป้ง และ ผิวน้ำมัน
แล้วผ้าใด เหมาะกับการเช็ดน้ำยาเคลือบสี แบบใด
ผ้าสำลี ผ้าฝ้าย เหมาะกับ การเช็ดน้ำยาเคลือบสี เมื่อแห้งเป็นแบบผิวแป้ง เนื่องจากผ้าจะมีการทอที่กว้าง ร่องผ้าจึงจับผิวน้ำยาเคลือบสีได้ดี ใช้แรงถูเบาๆ ก็ออกได้ง่าย
ผ้าไมโครไฟเบอร์ เหมาะกับ น้ำยาเคลือบสี ที่มีผิวแบบน้ำมัน เช็ดแล้วมีเงาวิ้งๆ เหมือนน้ำมัน เพระา ผ้าไมโครไฟเบอร์ มีผิวที่การทอเส้นใยที่ละเอียดมาก ประมาณ 800-1,000 ตร.ซม. สามารถดูดซับฝุ่นละออง คราบน้ำมันได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่นๆ
ผ้าไมโครไฟเบอร์ ทำมาจาก
1. PES (Polyester-โพลีเอสเตอร์) เป็นเส้นใยที่มีความแข็งแรง ทนทาน มีไฟฟ้าสถิตย์ซึ่งมีคุณสมบัติในการดักจับและกักเก็บฝุ่นได้ดี
2. PA (Polyamide -โพลีอามายต์) เป็นเส้นใยที่ช่วยให้เกิดความนุ่ม ลื่น มีคุณสมบัติในการดูดซับสูงซึ่งเมื่อใช้กับน้ำหรือน้ำที่ผสมน้ำยาทำความสะอาดจะช่วยให้การขจัดคราบสกปรกตลอดจนคราบไขมันต่างๆรวมทั้งแบคทีเรียบนพื้นผิวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยปราศจากคราบน้ำและรอยขีดข่วน
แต่เมื่อเรานำผ้า มาเช็ดน้ำยาเคลือบสี สลับกัน ก็จะ ผ้าสำลี เช็ดน้ำยาเคลือบสี แบบน้ำมัน เช็ดแล้ว คราบมันก็ไม่หมดซักที ผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ดน้ำยาเคลือบสี แบบผิวแป้ง เช็ดแล้วมีคราบน้ำยาเหลืออยู่ ผ้าดูดผิวสี ออกแรงเช็ดเพิ่มอีก หรือต้องพรมน้ำที่ผ้าเพื่อให้เช็ดออกง่าย
ผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ด น้ำยาเคลือบแบบผิวแป้ง จะเหลือคราบ
ในทางกลับกัน หากผ้าสำลี ผ้าฝ้ายเช็ดน้ำยาเคลือบแบบผิวน้ำมัน ก็เช็ดไม่ออก เป็นวงน้ำมันอยู่เหมือน เดิม
. . . . . . . . . . . . .
ยินดีให้คำปรึกษา สำหรับผู้สนใจธุรกิจคาร์แคร์ ดูแลรักษาสีรถยนต์
โทร.02 454 2876 -80