คุณสมบัติ น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค นาโน Carlack Nano
น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68
ประกอบด้วยสารซึ่งทำหน้าที่ต่างกัน 4 ประเภท ดังนี้
- สารปกป้องสีรถยนต์ (Conserving Agents)
- สารที่ทำให้สีรถดูเป็นประกายสดใสและดูใหม่เสมอ (Shining Agents)
- สารทำความสะอาดผิวสี (Cleaning Agents)
- สารป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตที่เกิดจากแสงแดด (Ultraviolet (UV) Protective Agents)
การผลิตน้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 โดยการนำสารทั้ง 4 ประเภทมาผสมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ต้องอาศัยเทคโนโลยีชั้นสูง ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของโรงงานในประเทศเยอรมันเท่านั้น อุณหภูมิระหว่างการผลิตจะสูงกว่าน้ำยาเคลือบสีอื่นๆ ทั่วไปมาก
ซึ่งประกอบด้วยสารสำคัญคือ โพลีเอทธีลิน (Polyethlene-Concentrate) สารอะครีลิค (Acrylic Concentrate) สารป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต (UV Protective Filter) ชนิดเข้มข้นและสารทำความสะอาดผิวสี (Cleaning Agents) ทำให้น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 มีประสิทธิภาพสูง สามารถนำมาใช้งานได้เอนกประสงค์และใช้งานง่ายเพียงขั้นตอนเดียว
คุณสมบัติ น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค นาโน
-
- สามารถทำความสะอาดผิวสี โดยไม่ทำลายหรือขัดผิวสีให้บางลงเหมือนน้ำยาขัดเงาทั่วไป น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 สามารถขจัดคราบไคลที่ผังแน่น, ยางไม้, ยางมะตอย, มูลนก, คราบน้ำมันและเขม่าจากท่อไอเสียรถยนต์, คราบสนิม, คราบซิลิโคน, ที่เกิดจากยางรถยนต์ ตลอดจนคราบสกปรกต่างๆ ที่เกาะอยู่ตามผิวสีรถ, กระจกและโครเมี่ยม
- ในขณะที่เคลือบสีรถนั้น สารต่างๆ ในน้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 จะแปรสภาพเป็นฟิล์มแข็งและใส เคลือบทับผิวสีรถทำให้ผิวสีรถมีความเงางามสม่ำเสมอตลอดทั่วทั้งคัน และทำให้ผิวสีรถแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม สีรถจะไม่กรอบแตก ป้องกันรอยขีดข่วน ทนต่อมลภาวะต่างๆ ได้ดี เช่น กรดจากมูลนก, น้ำฝน, น้ำค้าง, ยางไม้, มลภาวะที่มีสภาพเป็นด่าง, แอลกอฮอล์, น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
- น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 สามารถทนอุณหภูมิได้สูงถึง 160 องศาเซลเซียส หรือ 320 องศาฟาเรนไฮต์ เมื่อจอดรถตากแดด ชั้นฟิล์มของน้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 ที่เคลือบบนผิวสีรถจะไม่สลายตัวหรือเหนียวเหนอะ ตรงข้ามกับน้ำยาเคลือบสีที่ผสมด้วยแว็กซ์ (Wax) เป็นหลัก ซึ่งจะหลอมเหลวที่อุณหภูมิระหว่าง 40-70 องศาเซลเซียส เมื่อแว็กซ์โดนความร้อนจากแสดงแดด จะละลาย เหนียว ฝุ่นเกาะง่าย สีรถจะมองดูเป็นคลื่นหรือเงาเป็นชั้นๆ ไม่สม่ำเสมอ มองเห็นเป็นรอยขนแมว หรือรอยคล้ายใยแมงมุมบนผิวสีรถ อีกทั้งยังมีโอกาสที่ผิวสีรถ จะขึ้นฝ้าหรือมองดูหมองมัวอีกด้วย
- เมื่อเคลือบสีด้วยคาร์แลค 68 ผิวสีรถจะมีความลื่น น้ำจะไม่เกาะผิวสี เช็ดออกง่าย เวลาล้างรถก็จะเร็วและง่ายขึ้น สามารถล้างรถด้วยแชมพูล้างรถทุกชนิดได้ เนื่องจากแชมพูล้างรถไม่สามารถทำลายสารเคลือบสีของน้ำยาคาร์แลค 68 ได้
ปริมาณรังสี UV ที่สะท้อนจากผิวสีรถ ( เปอร์เซ็นต์ % )
UV REFLACTION ( PERCENT %)
- น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 มีสารป้องกันรังสียูวี ชนิดเข้มข้น ทำให้ผิวสีรถสามารถสะท้อนรังสียูวีได้สูงถึง 72% ซึ่งสูงกว่าน้ำยาเคลือบสีทั่วไปถึง 47.5% ซึ่งรังสียูวีส่งผลให้สีรถซีดจางและเสื่อมสภาพก่อนถึงเวลาอันสมควร
- น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิง จึงไม่ติดไฟ ไม่กัดผิวหนัง ไม่มีสารกัดกร่อนจึงไม่กัดทำลายยางขอบประตูรถ, ยางใบปัดน้ำฝน, วัสดุที่เป็นพลาสติก, สายไฟ, ไวนิลและส่วนประกอบอื่นๆ ของรถยนต์ดังนั้นน้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 จึงสามารถใช้ได้กับ กระจกรถ, โครเมี่ยม, ล้อแม็กซ์ที่มีผิวเรียบ, ไฟหน้า, ไฟท้าย, กระจกมองข้าง, กะทะล้อ, ฝาครอบล้อพลาสติก, และวัสดุผิวเรียบมันทุกชนิด ทั้งสามารถใช้ทั้งรถเก่าและรถใหม่ รวมทั้งสีรถทุกประเภท
- น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 ยังสามารถนำไปใช้ทำความสะอาดและเคลือบวัสดุอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน สำนักงาน และทุกสถานที่ โดยไม่ก่อให้เกิดผลเสียแต่อย่างใด
- น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 มีความเข้มข้นสูง ไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงและไม่หมดสภาพเมื่อโดนน้ำ จึงสามารถนำมาผสมน้ำเช็ดทำความสะอาดรถได้ ผิวสีรถจะสะอาดมากขึ้น มีความแข็งแกร่งและเงางามมากขึ้น
AVERAGE LIFE OF A PAINTED SURFACE / อายุเฉลี่ยของผิวสีรถ และ
DEGREE OXIDATION WITH AND WITHOUT CARE / ระดับความเสื่อมของสีรถ
| AFTER ช่วงระยะเวลา |
WITHOUT ANY CARE ถ้าปราศจากการดูแล |
WITH POLISH ถ้าเช็ดล้างรถเป็นประจำโดยไม่ได้เคลือบสี |
WITH WAX ถ้าใช้ขี้ผึ้งขัดเงา (WAX) เคลือบสีรถ |
WITH Carlack Incl. UV Protaction คาร์แลดสูตรใหม่ที่มีสารป้องกันรังสียูวีเคลือสีรถ |
| 2 Years/ปี | 50% | 40% | 25% | 3% |
| 5 Years/ปี | 60% | 55% | 35% | 6% |
| 8 Years/ปี | 90% | 65% | 50% | 8% |
| 12 Years/ปี | 100% | 95% | 65% | 11% |
| 16 Years/ปี | 100% | 100% | 85% | 15% |
ผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน CHRISTINA LAU GMGH, PRUFGERATE FUA พิสูจน์ว่า น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ คาร์แลค 68 ซึ่งมีสารโพลีเอทธีลีน (Polyethylene) เป็นส่วนประกอบหลักให้ผลการปกป้องคุ้มครองสีรถได้สูงสุด
วิธีใช้
- ล้างรถด้วยน้ำหรือแชมพูล้างรถ เช็ดรถให้แห้งหมาดๆ เทน้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 บนผ้านุ่มเพียงเล็กน้อย แล้วเคลือบให้ทั่วผิวสีรถทั้งคัน รวมทั้งโคมเมี่ยม และกระจกด้วย เคลือบเพียงเบาๆ ให้ทั่วบริเวณ
ส่วนใดที่มีคราบสกปรกฝังแน่นหรือมีริ้วรอยมากให้เพิ่มปริมาณน้ำยา แล้วเช็ดเคลือบบริเวณนั้นจนริ้วรอยต่างๆ จางลงหรือหมดไป
หลังจากเคลือบเสร็จให้ทิ้งไว้ 30 นาที จนผิวสีรถแห้งเห็นเป็นฝ้าขาว ใช้ผ้านุ่มที่แห้งสะอาดเช็ดฝ้าขาวออกเพียงเบาๆ รถก็จะเงางามทันที
- หลังจากเคลือบสีตามวิธีที่ 1 หากต้องการความประหยัดและยืดอายุการเคลือบสีรถให้ยาวนานยิ่งขึ้น
เมื่อล้างรถเสร็จ เช็ดรถให้หมาดๆ แล้วน้ำน้ำยาเคลือบสีคาร์แลค 68 ปริมาณ 3 ฝา ผสมน้ำสะอาด 2-3 ลิตร คนให้เข้ากัน ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำยาเช็ดให้ทั่วรถ ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วใช้ผ้าสำลีเช็ดรถให้แห้งสะอาด
ขนาดบรรจุ : 100 มล., 500 มล.
การเปรียบเทียบคุณสมบัติของน้ำยาเคลือบสีตามกลุ่มของเคมีภัณฑ์
CAR POLISHING AGENT ANALYSIS
การที่จะทราบถึงความแตกต่างในผลิตภัณฑ์ คาร์แลค 68 ทางท่านผู้อ่านจำเป็นต้องศึกษาอย่างจริงจังเพื่อจะทราบว่าเคมีภัณฑ์ที่นำมาเคลือบบนผิวสีรถยนต์นั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร
ซึ่งในปัจจุบันน้ำยาเคลือบสีรถยนต์สามารถแบ่งได้ตามต้นกำเนิดของเคมีภัณฑ์ เช่น ตระกูล Wax Silicone Polymer Resin หรือ Teflon ซึ่งสิ่งเหล่านี้แต่ละท่านจะต้องเข้าใจและสามารถถ่ายทอดให้เห็นถึงจุดแตกต่าง เพื่อตอกย้ำจุดเด่นในผลิตภัณฑ์ของ คาร์แลค 68 ทางผู้เขียน อยากให้ท่านคิดตาม และนำไปทดลองกับตัวท่านเองเพื่อท่านจะทราบว่าแตกต่างกันจริง
ในศตวรรษที่ 19 ได้มีนักวิจัยเกิดขึ้นจำนวนมากได้พยายามคิดค้น เคมีภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการปกป้องผิวสีรถยนต์ที่ดีที่สุดจนในที่สุดทีมคณะวิจัยของCAR-LACK CHEMIE KONSTANZ ได้ค้นพบสูตรทางเคมีที่รวบรวมความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของสารเคมีต่างๆ รวมไว้ด้วยกันจนกลายเป็น น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ CAR-LACK 68 ขึ้น โดยมีส่วนผสมของสารเคมีหลักๆ คือ
น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค-นาโน CARLACK Nano
- สารโพลีเอทธีลีน Polyethylene
- สารอะครีลิค Acrylic
- สารป้องกันรังสียูวี UV Protection
- สารทำความสะอาดผิวสี Cleaning Agent
ซึ่งสารเคมีหลัก ๆ คือ Polyethylene และ Acrylic จะมีส่วนช่วยสร้างความแข็งแรง และความคงทนให้กับแผ่นฟิล์ม โดยแฝงไปด้วยความเงางาม สารโพลีเอทธีลีนเป็นสารที่สกัดได้จากส่วนที่เป็น PE หรือ พลาสติก แต่ Polyethylene จะมีความเด่นตรงที่เป็นสารเคลือบแข็ง ที่ทนต่อความร้อนสูงมากๆ
สังเกตได้จากถุงร้อน ที่นำมาใส่ก๋วยเตี๋ยว หรือน้ำแกงร้อนๆ กว่า 100 องศาเซลเซียส ลองคิดดูสิว่าชั้นผิว หรือ Layer ของถุงนั้นมีความหนาเท่าใด กี่มิลลิเซ็นต์
บางทีอาจเรียกว่าบางกว่าที่เราจะไปวัดได้ แต่เพราะเหตุใดผิวที่บางขนาดนั้นจึงสามารถทนต่ออุณหภูมิที่ถูกเทผ่านน้ำลงไป และทำให้ถุงไม่ขาด ทั้งๆ ที่ถ้านำน้ำร้อนไปเทใส่วัสดุอื่นเช่น กระดาษ หนัง ก็คงเปื่อยทะลุเป็นแน่ นั่นคือความโดดเด่นของสารเคมีประเภท Polyethylene ที่มีความแข็งแกร่ง และมีความคงทนต่ออุณหภูมิที่สูงถึง 320 องศาฟาเรนไฮท์ หรือ 160 องศาเซลเซียส สูงกว่าจุดเดือด
ส่วน Acrylic เป็นสารเคมีที่ให้ความเงางามสูง ท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินคนพูดว่า รถคันนี้พ่นสีอะครีลิค สีเมทัลลิค เป็นต้น ซึ่งคุณสมบัติหลักของ อะครีลิค คือความใส ความเงางามสูง ซึ่งสารเคมีนี้เองถูกหลอมรวมอยู่ในน้ำยาเคลือบสีรถยนต์ คาร์แลค 68 สรุปคือ
POLYETHYLENE คุณสมบัติมีความแข็งแรง ทนต่อความร้อนได้สูงถึง320 ‘F หรือ 160 ‘C
+
ACRYLIC คุณสมบัติมีความเงางามสูง
=
CAR-LACK 68 เคมีภัณฑ์ที่ได้รับการยกย่องเป็นสุดยอดน้ำยาเคลือบสีรถตั้งแต่ปี 1986 ในทวีปยุโรป หรือรางวัล “ The Gold Medal Award for International Trophy for Technology 1986 ”
ต่อไปนี้จะมาศึกษา ความแตกต่างระหว่างเคมีภัณฑ์ที่นำมาเคลือบสีรถยนต์ที่มีอยู่ในท้องตลาด
| สารเคมี / Chemical | ลักษณะคุณสมบัติ / Advantage-Disadvantage |
| Polyethylene
(ใน CAR-LACK 68) *ตัวอย่างเช่น ถุงร้อนใส่อาหาร |
ข้อดี
ความคงทนต่ออุณหภูมิที่สูงถึง 320’F หรือ 160’C มีแผ่นฟิล์มที่บางใส มีความแข็งแกร่ง และทนทาน สามารถนำไปเคลือบกระจกได้ สามารถผสมกับน้ำได้ ข้อเสีย ยากในการผลิต ต้องใช้ความร้อนที่สูง มีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเคมีภัณฑ์ทั่วไป |
| Acrylic
(ใน CAR-LACK 68) *ตัวอย่างเช่น สีอะครีลิค, แผ่นอะครีลิค |
ข้อดี
ให้ความเงางาม ให้ความใส สามารถนำไปเคลือบกระจกได้ ข้อเสีย ต้องใช้อุณหภูมิที่สูงในการผลิต มีต้นทุนการผลิตสูง |
| Wax
(Kit, Cargo, Eagle One, Soft 99, Turtle Wax, Cadulac, Premium, Zymol**, Maguier**) *ตัวอย่างเช่น เทียนไข, ขี้ผึ้ง |
ข้อดี
มีความมัน เงางาม ใช้งานง่าย สามารถผลิตในรูปแบบ Hard Wax ได้ ต้นทุนต่ำ ข้อเสีย ทนความร้อนได้เพียง 45’C – 70’C เมื่อโดนความร้อน สีจะดูเป็นปื้นๆ มีส่วนผสมของ Petroleum Base ตั้งในที่เย็นมากจะเป็นไข หรือแยกชั้นน้ำยา ไม่สามารถเคลือบกลางแดด หรือในที่มีอุณหภูมิสูง เช็ดออกยากถ้าทิ้งไว้นานๆ แผ่นฟิล์มไม่แข็งแรง ไม่ทน ต้องเคลือบบ่อยๆ ไม่สามารถนำไปเคลือบกับกระจกได้ เพราะมีน้ำมัน **หมายเหตุ ถ้าเป็นเคมีที่ผลิตจาก CARNUBAR WAX แท้ๆ จะดีมากซึ่งต้นทุนสูง หายากมาก ผลิตได้จากไขสัตว์ : ไขปลาวาฬ ปัจจุบันได้เลิกแล้วเพราะถูกกลุ่มอนุรักษ์นิยม Green Peace ยับยั้ง ปัจจุบันสกัดได้จากไขของพืช ซึ่งมีความคงทนสูง มีความมันเงา เช่น น้ำยา Zymol |
| Silicone
(AMWAY) *ตัวอย่างเช่น ซิลิโคนที่ฝังในเต้านม, ซิลิโคนที่ใช้ในการยาแนว |
ข้อดี
เคลือบแล้วเงา เป็นสารที่อยู่ในสภาพ Liquid มีความยืดหยุ่นสูง ข้อเสีย ทนความร้อนได้เพียง 45’C – 75’C มีสารกัดสีอ่อน ถ้าใช้กับสัน หรือขอบประตูสีจะหลุดง่าย ไม่เหมาะที่จะเคลือบกลางแดด ข้างขวดมีเขียนไว้ เมื่อเช็ดโดนพลาสติกๆ จะด่างขาว มีส่วนผสมของ Petroleum Base แผ่นฟิล์มที่เคลือบสีไม่แข็งแรง ไม่สามารถนำไปเคลือบกับกระจกได้ เพราะมีน้ำมัน |
| Polymer
(Nu finish) เป็นสารที่มีอยู่ในคุณสมบัติของ พลาสติก ประเภท PE |
ข้อดี
สารเคลือบแข็ง มีความเงางาม เป็น Liquid Base ให้ความคงทนมากกว่าสารที่เป็น WAX, RASIN ข้อเสีย เป็น Petroleum Base ตั้งทิ้งไว้นานๆ น้ำยาอาจแยกชั้น ไม่สามารถนำไปเคลือบกับกระจกได้ |
| Resin
(Autoglym) *ตัวอย่างเช่น กรอบรูปวิทยาศาสตร์ ทำจากเรซิ่น |
ข้อดี
มีความแข็งกว่า Wax, Silicone มีความเงางาม ใส เป็น Liquid Base ข้อเสีย มีส่วนผสมของ Petroleum มีการแยกชั้นถ้าทิ้งไว้ในที่เย็นนานๆ ไม่สามารถเคลือบกลางแดดได้ ถ้าเคลือบทิ้งไว้นานๆ เช็ดออกยากมาก ไม่ทนต่อความร้อนสูง ไม่สามารถนำไปเคลือบกระจกได้ เพราะมีน้ำมัน ต้องเคลือบอยู่บ่อยครั้ง |
| Teflon
(Eagle One, Karshine, Bilstien) *ตัวอย่างเช่น กระทะเทฟล่อน |
ข้อดี
มีผิวที่ลื่น มีความเงางามสูง ใช้ง่าย ข้อเสีย ไม่ทนต่อการขูดขีด ในต่างประเทศเคย รณรงค์ที่จะเลิกใช้สารเทฟลอนที่มีอาจมีอันตรายต่อผู้ใช้ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง มีส่วนผสมของ Petroleum Base ทนต่อความร้อนได้จำกัด ต้องเคลือบอยู่บ่อยครั้ง ตั้งทิ้งไว้นานๆ น้ำยาจะแยกชั้น ไม่สามารถนำไปเคลือบกับกระจกได้ |
วิธีการเคลือบสี น้ำยาเคลือบสีคาร์แลค นาโน แบบอื่นๆ
การเคลือบสีคาร์แลค นาโน แบบที่ 1
การเคลือบสีคาร์แลค นาโน แบบที่ 2
การเคลือบสีคาร์แลค นาโน แบบที่ 3
การเคลือบสีคาร์แลค นาโน แบบที่ 4
การเคลือบสีคาร์แลค นาโน แบบที่ 5
♦️ #การเลือกผ้าที่เหมาะกับการเช็ดน้ำยาเคลือบสี
https://www..facebook.com/story.php?story_fbid=1111594628965456&id=254026488055612
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
Carlack ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาทำความสะอาด
รักษาผิวสีรถยนต์ จาก Swiss
โทร. 02 454 2876-80
การเคลือบสี น้ำยาเคลือบคาร์แลค ลองไลฟ์
น้ำยาเคลือบคาร์แลค ลองไลฟ์
carlack longlife
สารอะครีลิค ชนิดเข้มข้น ( ACRYLIC-CONCENTRATE) ลักษณะมีสีขาวขุ่น ไม่ข้นหนืด สภาพเป็นฟิล์มแข็งและใส
1.ล้างรถยนต์ ด้วยแชมพูล้างรถ Carlack Shampoo
2.เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
3.ใช้ผ้าแห้งนุ่มๆ ชุบน้ำยาคาร์แลค ลองไลฟ์ เคลือบให้ทั่วรถ ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที ยิ่งทิ้งไว้นานยิ่งดี
4.ใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดออก
หลังเคลือบไม่ควรล้างรถเป็นเวลา 2 วัน
*นอกจากนี้ท่านสามารถใช้ คาร์แลค 68 ลองไลฟ์ เคลือบสีรถในขั้นตอนสุดท้ายได้ทันที
หลังจากเคลือบสีด้วยน้ำยาเคลือบสี คาร์แลค 68 แล้ว ควรเคลือบคาร์แลค ลองไลฟ์ ทุก 3-6 เดือน
www.carlack.co.th
www.facebook.com/calackthailand
ฝนกรด กับ คราบน้ำบนสีรถ
ฝนกรด กับ คราบน้ำบนสีรถ
#ฝนตกชุ่มฉ่ำตลอดฤดู
กลับมาอีกที มีคราบน้ำมากมาย ทำอย่างไรดี?
ฝนกรด (Acid Rain) หมายถึง น้ำฝนที่มีค่า pH ต่ำกว่า 5.6วัดได้จากการใช้เสกลที่เรียกว่า pH ซึ่งค่ายิ่งน้อยแสดงความเป็นกรดที่แรงขึ้น น้ำบริสุทธิ์มี pH เท่ากับ 7
ฝนกรด เกิดจากการรวมตัวของน้ำฝนและแก๊สออกไซด์ต่างๆ ของโลหะที่เกิดจากควันเสียจากโรงงานอุตสากรรมหรือว่ารถรวมถึงควันจากการเผาไหม้อื่นๆ ปะปนอยู่ในอากาศจึงทำให้มีสมบัติเป็นกรด สร้างความเสียให้กับสิ่งต่างๆที่โดนฝนกรด
” #ล้างรถ #เดี๋ยวฝนก็ตก #รถก็เปิ้อน #อีก “
แล้วฝนกรด จะมีผลกับผิวสีรถยนต์อย่างไรบ้าง ?
เมื่อน้ำฝนถูกผิวสีรถ จนแห้ง จึงเกิดเป็นคราบน้ำฝังแน่น กัดกร่อนผิวสีรถ กระจก และอุปกรณ์ผิวโลหะอื่นๆได้ คราบสกปรกยากแก่การขจัดออก
หล้งจากการขับรถผ่านฝนตก หรือ จอดรถตากฝน ควรล้างทำความสะอาด ปกติไม่ควรปล่อยท่ิ้งไว้นาน
คำที่มักได้ยินบ่อย ในหน้าฝน ฝนตกล้างรถ เดี๋ยวฝนก็ตก รถก็เปื้อนอีก อาจไม่เหมาะกับผู้รักรถ เช่นเราเลย
#การเคลือบสี คาร์แลค Calack
จึงช่วยปกป้องฝนกรด คราบฝังแน่น และกัดกร่อนบนผิวสีรถยนต์ ได้ดี จาก อะคิลิค สูตรพิเศษ
นอกจากนี้ คิอ
ช่วยทำความสะอาดผิวสี ขจัดคราบสกปรกได้ จากคลีนเนอร์ สูตรน้ำ
ช่วยให้ผิวสีรถมีความเงางาม เหมือนใหม่อยู่เสมอ
ปกป้องผิวสี จาก มูลนก ยางไม้ ฝุ่นละออง มลพิษ เกาะบนผิวสีได้
ช่วยป้องกันผิวสจากแสงแดด รังสียูวี จนเกิดความซีดจาง จากยูวี โปรเทคชั่น
ระยะห่างในการเคลือบสี 2 เดือนครั้ง หรือ บ่อยครั้งที่ต้องการ
การดูแลรักษาผิวสีรถ และ อุปกรณ์ต่างๆ ในฤดูฝน ควรล้างอย่างปกติ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน หลังจากการขับผ่านฝนตก หรือจอดตากฝน และ การเคลือบสี ก็สามารถช่วยปกป้องผิวสีรถ จากมลภาวะต่างๆได้ดีด้วยเช่นกัน
. . . . . . . . . . . . .
บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด
คราบน้ำบนสีรถ
02-454-2876-80
www.molycare.com
www.carlack.co.th
มาบำรุง #ใบปัดน้ำฝน กันเถอะ
มาบำรุง #ใบปัดน้ำฝน กันเถอะ
ใบปัดน้ำฝน เป็นสิ่งสำคัญมากในช่วงฤดูฝน เพื่อให้เห็นทัศนียภาพที่ชัดเจน เพื่อความปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุได้
ด้วยแสงแดดร้อนระอุ และฝุ่นละออง เป็นตัวการทำให้ยางใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น เมื่อถึงเวลาหน้าฝนทีไร ปัดไม่สะอาด มองไม่ชัด บางทีก็มีสะดุด อีกด้วย
วันนี้ขอแนะนำ การบำรุงรักษา ยางใบปัดน้ำฝน เราทำเองได้ ง่ายมากๆ
สามารถทำพร้อมล้างรถก็ได้
อุปกรณ์ที่ใช้ 1.แชมพูล้างรถ 2.ฟองน้ำ 3.ผ้าเช็ดรถ 4.น้ำยาเคลือบเบาะ หรือ สเปรย์ หล่อลื่น ซิลิโคน
1.ยกก้านใบปัดขึ้น ทำความสะอาด ใบปัดด้วยแชมพู
ถูใบปัดให้ทั่ว หากใบปัดสกปรกมีคราบฝุ่นมาก จะเห็นได้ว่าคราบดำจะติดฟองน้ำ หรือผ้าที่ใช้ถู
คราบสกปรกพวกนี้ก็เป็นส่วนที่ทำให้ยางปัดไม่แนบสนิทกับกระจก ปัดแล้วเป็นเส้นๆ นั่นเอง
2.เช็ดใบปัดน้ำฝนให้แห้ง ด้วยผ้าสะอาด
3. ทำการบำรุงรักษาเนื้อยาง ด้วยน้ำยาเคลือบเบาะ carlack สูตรซิลิโคน หรือสเปรย์ ซิลิโคน เข้มข้น
โดยการเทน้ำยาบนฟองน้ำ แล้วลูบให้ทั่วยางใบปัดน้ำฝน ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที
4.ใช้ผ้าสะอาดเช็ดเนื้อยางอีกครั้ง แล้วกดปัดใบน้ำฝนแนบกับกระจก
เพื่อให้การปัดน้ำฝนสมบูรณ์ 100% ไร้ที่ติ
ทำความสะอาดกระหน้ารถด้วยแชมพู หรือ น้ำยาเช็ดกระจก และเพิ่มการเคลือบกระจกหน้า
จะสามารถลดการเกาะของคราบสกปรก น้ำไหลลื่นเร็ว และปัดน้ำฝนได้ดียิ่งขึ้น
น้ำยาเคลือบเบาะหนัง / พลาสติก สูตรซิลิโคน จะช่วยทำความสะอาดยาง ปรับสภาพยางใบปัด
ให้มีความหยืดหยุ่น อ่อนนุ่ม ไม่แห้งกรอบง่าย หน้าสัมผัสกับกระจกอย่างแนบแน่น รีดน้ำได้หมดจด
และ ลดการเกิดเสียงขณะปัดน้ำฝนด้วย
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
carlack ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ จากสวิตเซอร์แลนด์
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด
โทร. 02 454 2876-80
รอยขีดข่วนที่มักพบเจอ
รอยขีดข่วนบนผิวสีรถ เกิดจากธรรมชาติ กิ่งไม้ จากการใช้งาน วางของ ล้างรถ เช็ดถู และการปรับแต่งจากอู่สี ขนาดความกว้างและลึกแตกต่าง
รอยที่มักพบเจอกัน อาจแบ่งเป็น 3 แบบคือ
รอยขีดข่วนลึก เกิดการจากขูดขีด
รอยเป็นวง เป็นดวง เกิดจากขี้นก ยางไม้
รอยขนแมว หรือรอยเส้นผม มักเกิดจาก การล้างรถ การเช็ด ปัด ถู พื้นผิวมี ฝุ่นละอองอยู่ หรือ ผ้ามีขนแข็ง
แล้วรอยลึกขนาดไหน สามารถขัดสีออกได้
เรามีวิธีการประเมินที่คุณสามารถตรวจเช็คได้เองคือ
“ใช้เล็บสะกิดที่รอยขีดข่วน”หากเล็บไม่สะดุด ก็สามารถขัดออกได้ หรือ
มีการสะดุดมาก รอยอาจกว้าง หรือ ลึกมาก ไม่สามารถขัดให้ออกหรือหายไปได้ แก้ไขด้วย ปากกาแต้มสี หรือ พ่นสีใหม่
รอยขี้นก จะคล้ายกับรอยด่าง ซึ่งรอยลักษณะนี้ เกิดจากการที่กรดขี้นกได้กั
ส่วนรอยขนแมว จะเห็นชัดเจนเมื่อสะท้อนกับ
. . . . . . . . . . .
บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด
โทร. 02 454 2876-80
www.carlack.co.th
เทคนิคเลือกผ้าเช็ดน้ำยาเคลือบสี
เทคนิคเลือกผ้าเช็ดน้ำยาเคลือบสี
” ผ้า” กับ “การเช็ดน้ำยาเคลือบสี “
มีอยู่ 2 เหตุผลที่ไม่ลงตัว ทำให้เป็นแบบนี้ คือ
แล้วผ้าใด เหมาะกับการเช็ดน้ำยาเคลือบสี แบบใด
ผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ด น้ำยาเคลือบแบบผิวแป้ง จะเหลือคราบ
ในทางกลับกัน หากผ้าสำลี ผ้าฝ้ายเช็ดน้ำยาเคลือบแบบผิวน้ำมัน ก็เช็ดไม่ออก เป็นวงน้ำมันอยู่เหมือน เดิม
ดินสอพอง และ #แป้งนวล แป้งสี
#ดินสอพอง และ #แป้งนวล แป้งสี
ชุ่มฉ่ำวันสงกรานต์ มีหลากสีสวยงาม แต่อาจไม่สบายผิวกายเรา และผิวสีรถเรา
ดินสอพอง เป็นแป้งขาวที่เรารู้กันมานานในการเล่นปะแป้งสงกรานต์ และมีสรรพคุณอีกหลายอย่าง
#ดินสอพอง มีความเป็น #ด่าง ประมาณ 9.4 ก็ไม่อันตรายอะไร แต่การเล่นเดี๋ยวนี้ เรียกว่า ” #โปะ ” เต็มหู เต็มตา ทั่วตัว คราวนี้เราก็บอกไม่ได้ว่า แป้งมีเชื้อราไหม เราก็ไม่รู้ว่ามาจากแหล่งผลิตไหน คงแก้ด้วยล้างตัวบ่อยๆ
#แป้งนวล แป้งสี จะคล้ายกับดินสอพอง และน่าเป็นห่วงมากกว่า เพราะมีส่วนผสม #แคลเซียมซัลเฟต หรือ #ยิบซั่ม และบางที่ผสมสีทาบ้านอีกด้วย ระคายเคืองผิวหนัง เกิดผื่นคัน เมื่อสูดดมเข้าไป ก็อันตรายต่อทางเดินหายใจ ต่อปอดของเรา
มาถึงผิวสีรถบ้าง เล่นสงกรานต์ มีปะแป้งรถก็ดูสวยอินเทรนด์ดี แต่ด้วย #ดินสอพองเป็นด่าง และ #อากาศร้อน จะทำให้เกิดการยึดเกาะ เป็นก้อน และคราบน้ำขาวๆ แก้ไขได้ยาก
จากประสบการณ์ แก้ไขยากกว่าคือ #แป้งนวล ที่ผสมสี ทำให้เกาะผิวสีเป็นก้อน ๆ ไม่สามารถละลายออกด้วยน้ำ แชมพู หรือน้ำยาขัดสี จะต้องใช้เครื่องมืออุปกรณ์คาร์ช่วย และใช้เวลานาน ค่าใช้จ่ายสูง
#สรุปคือ ผู้เล่นสงกรานต์ และผู้ขับขี่รถ ควรล้างตัวบ่อยๆ และล้างผิวสีรถที่คราบแป้ง หลังจากการเล่นทุกวัน ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพียงฉีดน้ำเปล่าใช้มือลูบ หรือผ้าลูบออกก็ได้
. . . . . . . . . . . . .
บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด
02-454-2876-80
www.molycare.com
www.carlack.co.th
#ล้างรถ #เคลือบแก้ว #ขัดคลือบสี #ซักเบาะพรม #พ่นกันสนิม #คาร์แคร์ #แฟรนไชส์คาร์แคร์
#น้ำยาเคลือบสีรถ #แชมพูล้างรถ #น้ำยาซักเบาะ
#carlack #molycare
การเคลือบสีรถ ด้วยเครื่องขัดระบบ Dual Action หมุนวนสลับ
การเคลือบสีรถด้วยเครื่องขัด ระบบ Dual Action หมุนวนสลับ
ช่วยสร้างการเคลือบเงา และ การทำความสะอาดผิวสี รถในเวลาเดียวกัน
การเคลือบสีด้วยเครื่อง Daul Action เป็นที่ยอมรับในศูนย์คาร์แคร์ Detailing และ ผู้ที่ชื่นชอบการดูแลรักษารถเองที่บ้าน
ประสิทธิภาพการหมุนวนสลับ ทำให้การเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง และมีการหมุนรอบตัวเองของแกนแป้นขัด จึงทำให้ควบคุมเครื่องได้ง่าย ไม่เกิดแรงเหวี่ยงแบบเครื่อง หมุนทางเดียว แบบ Rotary
การเคลือบสีรถให้ เงาสวย อย่างเต็มประสิทธิภาพ จะต้องรวม 3 องค์ประกอบ เข้าด้วยกันคือ
1. เครื่องขัด DA ( Dual Action )
– เครื่องขัด DA มีแบบไฟฟ้า แบบลม ปรับความเร็วได้/ ไม่ได้
2. ฟองน้ำเคลือบสี
– ฟองน้ำขัดเคลือบผิวสี จะมีความหยาบ / ละเอียด อ่อนนุ่ม แตกต่างกัน
-ฟองน้ำที่มีผิวหยาบ ผิวแข็งจะเน้น การขัดริ้วรอย การทำความสะอาด
-ฟองน้ำที่่มีผิวละเอียด ผิวนุ่ม เพื่อการเคลือบเงา เมื่อขัดเคลือบผิวจะสร้างความเงาสูงสุด ไม่เกิดรอยขีดข่วน
3. น้ำยาเคลือบสี นอกจากความเงางามแล้ว ก็มีคุณสมบัติเพิ่มเติมแตกต่างกัน การทำความสะอาด การริ้วรอยรอยเล็ก หรือรอยขนแมว การป้องกันการเกิดรอยฝ้า Hologram
เมื่อนำ 3 องค์ประกอบนี้มารวมกันอย่างลงตัว จึงเกิด “ความเงา ” ประกายแวววับดั่งกระจก เป็นการเคลือบที่สมบูรณ์ 100 %
น้ำยาเคลือบสีรถ
น้ำยาเคลือบสีรถ คาร์แลค นาโน
น้ำยาเคลือบสีรถ คาร์แลคลองไลฟ์
น้ำยาเคลือบสีรถ คาร์แลค คอมพลีท คาร์นูบา
น้ำยาเคลือบสีรถ คาร์แลค C3
สเปรย์น้ำยาเคลือบสีรถ คาร์แลค ฟาสดีเทลเลอร์
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาผิวสี และความสะอาดรถยนต์
บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด
02-454-2876-80
การเคลือบเบาะหนัง ถุงมือหนัง ด้วย Carlack Leather Cream
การเคลือบเบาะหนัง ถุงมือหนัง ด้วย Carlack Leather Cream
ช่วงเวลาของการออกทริป 2 ล้อได้มาถึงแล้ว
“ถุงมือ” เป็นส่วนสำคัญของการช่วย บังคับและบิดคันเร่ง
แน่นอนว่า สำหรับผู้ขับขี่ เมื่อสวมใส่ แล้วถุงมือจะต้องนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง บาดนิ้วกันเลยทีเดียว เหนืออื่นใด ภายนอกก็ต้องดูสะอาดน่าสัมผัสด้วย
เนื่องจาก การใช้งานจะมีการสัมผัสสิ่งภายนอก และมีเหงื่อ ทำให้หนังเกิดความแห้งกระด้าง และเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น
การรักษา ความชุ่มชื้น และสะอาด อยู่เสมอจะทำให้ ผิวหนัง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น คุ้มค่ากับ ราคาค่าตัวของ ถุงมือหนัง หรือ ชุด อุปกรณ์ขับขี่ของท่าน
วิธีที่สุดแสน #Perfect ก่อนหรือ หลังการใช้งาน ควรเคลือบรักษาด้วย
#ครีมเคลือบ บำรุงรักษาเบาะหนัง พลาสติก
Carlack Leather Cream
ทำความสะอาดเคลือบเงาหนัง เบาะหนัง ยาง พลาสติกต่างๆ ป้องกันการกรอบแตกและซีดจางได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังช่วยทำให้สีวัสดุดูใหม่ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการใช้ภายในรถเป็นอย่างมาก เนื่องจากน้ำยาตัวนี้ไม่มีกลิ่นเหม็น แห้งเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และคงอยู่ได้นาน
ขนาด 500 มล.
. . . . . . . . . . . . . . .
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
m.me/carlackthailand
สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย หรือเปิดคาร์แคร์
ติดต่อ 02 4542876-80
. . . . . . . . . . . . . . .
ยินดีให้คำปรึกษา สำหรับผู้สนใจธุรกิจคาร์แคร์ หรือตัวแทนจำหน่ายผลิตดูแลรักษาสีรถยนต์ คาร์แลค
บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน)จำกัด
www.carlack.co.th
#น้ำยาเคลือบสีรถ #น้ำยขัดสีรถ #น้ำยาเคลือบเบาะ #น้ำยาทายางดำ#น้ำยาซักเบาะพรม
วิธีการเคลือบสีรถ ด้วย Carlack Complete และ Nano Systematic
วิธีการเคลือบสีรถ ด้วย Carlack Complete และ Nano Systematic
วิธีการเคลือบสี
#น้ำยาเคลือบสี Carlack Complete และ Nano Systematic
ด้วยพื้นฐาน อะคิลิคสูตรน้ำ จึงทำให้มีวิธีการเคลือบ ทำความสะอาด ที่สะดวก ใช้งานง่าย เหมือนกัน
วิธีการใช้งาน เริ่มจาก
1. ล้างรถ ด้วยแชมพู Carlack และเช็ดผิวสีหมาดๆ ไม่ต้องแห้งสนิทก็ได้
หรือ ขณะล้างเพิ่มความสะอาดให้กับผิวสี ขจัดคราบ ฝุ่น หรือละอองสี ด้วย #ดินน้ำมันลอกละอองสี จะทำให้ผิวสี เรียบเนียน เงางามที่่สุด หลังจากการเคลือบสี
2. เทน้ำยาเคลือบสี #ลงบนผ้าชื้่นๆ แล้วถูวนเป็นก้นหอย บนผิวสี กระจก โครเมี่ยม ล้อแม็กซ์ ไฟหน้า ไฟท้าย ให้ทั่ว ทิ้งไว้ขึ้นฝ้า 15-30 นาที
บริเวณที่มีคราบสกปรก ออกแรงถูวนเล็กน้อย จะช่วยขจัดคราบได้ด้วย
3. เช็ดน้ำยาเคลือบสีด้วยผ้าขนนุ่ม หรือ ผ้าไมโครไฟเบอร์ สามารถเช็ดถูเป็นแนวตรง หรือ ถูวน ได้ทั้ง2แบบตามถามถนัด
ขณะที่เช็ด หากน้ำยาเช็ดออกยาก ไม่ควรเช็ดถูแรงๆ ควรพรมน้ำลงบนผ้า แล้วลองเช็ด น้ำยาอีกครั้ง
การเช็ดถูผิวสีแรงๆ อาจกลับกลายเป็นรอยบนผิวสีแทน
กลับด้านผ้าบ่อยๆ หรือเปลี่ยผ้าเช็ดผืนใหม่ เพื่อผ้าที่เช็ดจะนุ่มสะอาด
. . . . . . . . . . . . . . .
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
m.me/carlackthailand
สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย หรือเปิดคาร์แคร์
ติดต่อ 02 4542876-80
. . . . . . . . . . . . . . .
ยินดีให้คำปรึกษา สำหรับผู้สนใจธุรกิจคาร์แคร์ หรือตัวแทนจำหน่ายผลิตดูแลรักษาสีรถยนต์ คาร์แลค
บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน)จำกัด
www.carlack.co.th
#ล้างรถ #ขัดเคลือบสี #ซักเบาะพรม #แฟรนไชส์ #คาร์แคร์
#น้ำยาเคลือบสีรถ #น้ำยขัดสีรถ #น้ำยาเคลือบเบาะ #น้ำยาทายางดำ#น้ำยาซักเบาะพรม
Carlack